ฝนโปรยลงบนกระจกตึกระฟ้าเหมือนเส้นกราฟแดงในวันที่ตลาดรับข่าวร้าย—ยาว เรียบ และเจ็บลึก
“คุณนะ…เกินความจำเป็นแล้วว่ะ”
ประโยคจากผู้จัดการยังลอยวนอยู่ในหัวของ “ภควัต” ชายวัยสามสิบต้น ผู้ที่เคยคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์เงินเดือนมั่นคงระดับแผนก แต่วันนี้ก็ถูกแทนที่ด้วย AI ที่ไม่ต้องกิน ไม่ต้องพัก และไม่เคยบ่นว่ารถติด
เขาเดินออกมาจากตึกบริษัทด้วยหัวใจที่เหมือนโดน Margin Call เสียยิ่งกว่าในห้องเทรด
ท้องฟ้ามืดสนิท แต่ในมือถือกลับสว่างจ้า—ข้อความจากธนาคาร
“ยอดชำระบัตรเครดิตของคุณเกินกำหนด…”
เหมือนโลกกำลังประสานเสียงรุมกระทืบเขาอยู่พอดี
ภควัตหัวเราะสั้น ๆ แบบคนเจอความพังมาหนักจนไม่มีอะไรให้เสียอีก
“กูคงเหลือค่าลมหายใจนี่แหละ…ที่ยังไม่โดนยึด”
และนั่นคือจุดเริ่มของการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชีวิตเขา…
ไปสู่โลกที่เขาคิดว่า “อิสระ”
ทั้งที่จริง เป็นสมรภูมิฆ่าคนเงียบ ๆ — โลกของแพลตฟอร์มและแท่งเทียน
ตอนที่เขาคิดว่าตัวเองหมดเรื่องพังแล้ว… เธอกลับเดินเข้ามาพอดี
ในค่ำคืนนั้น ภควัตเดินตากฝนกลับคอนโดมือสองที่ผ่อนจนเหมือนเป็นญาติห่าง ๆ ของธนาคาร
พอถึงล็อบบี้ เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งรอรถรับส่งของบริษัทขนส่ง เธอสวมชุดเชิ้ตสีไข่มุก กางเกงสแลคเรียบ ๆ แต่ดูแพงกว่าเงินในบัญชีเขาทั้งหมดรวมกัน
หญิงสาวกำลังหอบกล่องพัสดุกองเท่าภูเขา
เธอดูอ่อนล้า แต่ยังยิ้มให้คนรอบข้างเสมอ
ยิ้มแบบคนที่เจอพายุแต่ยังไม่อยากให้ใครเป็นห่วง
ภควัตไม่ได้ตั้งใจมอง แต่สายตากลับสะดุดเพราะเธอพูดขึ้นพอดี
“ไม่เป็นไรค่ะคุณพี่ เดี๋ยวฉันรอรอบถัดไปก็ได้ วันนี้ส่งไม่หมดอีกแล้ว ฮึ่ย…แพลตฟอร์มนี่ก็ใจร้ายจังเลยเนอะ”
เสียงหวานปนเหนื่อยนั้นทำให้หัวใจเขาสะดุด
เหมือนกราฟที่กำลังร่วงแล้วดีดขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
หญิงสาวชื่อ “ลินี”
แม่ค้าออนไลน์ที่กำลังโดนแพลตฟอร์มกินค่าธรรมเนียมจนแทบไม่เหลือแม้แต่กำไรรอยยิ้ม
เขาไม่รู้ตัวเลยว่า ผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่กำลังงุนงงกับกองกล่องตรงหน้า
จะกลายเป็น “Intrinsic Value” เดียวในชีวิตที่พายุพาอะไรก็ไปหมดแล้ว
จากคนแปลกหน้า → คนที่โลกจะผลักให้มาเทรดชะตาร่วมกัน
วันต่อมา ภควัตโดนไล่ออกจากร้านกาแฟที่เขา “ลงทุนผิดชีวิต”
ในวันเดียวกันนั้น ลินีก็ถูกลูกค้าให้ดาวเดียวเพราะ “เชือกมัดกล่องไม่เป็นศิลปะ”
โลกใจร้ายกับทั้งคู่ทุกรูปแบบเท่าที่จะทำได้
แต่โชคชะตากลับใจดีนิดเดียว…พอให้เขาเจอกันอีกครั้ง
ร้านล้างรถข้างคอนโด
ลินีทำกาแฟหกใส่ตัวเอง
ภควัตยื่นทิชชูให้ เธอเงยหน้าขึ้น
และกาลเวลาก็เหมือนหยุดสั้น ๆ แบบในซีรีส์
“อ้าว…คุณคนเมื่อคืน”
“เอ่อ…ผมนี่แหละครับ คนเมื่อคืน”
ความเขินอายประหลาด ๆ ทำให้ทั้งคู่หัวเราะ
มันเป็นเสียงหัวเราะเดียวที่ภควัตหลุดออกมาตลอดทั้งเดือน
ตอนนั้นเองที่เขารู้ว่า—
บางครั้งตลาดชีวิตก็มีสัญญาณกลับตัว
แต่ไม่ใช่ในกราฟ
เป็นในหัวใจ
แต่ความรักไม่ใช่กราฟขึ้นตรง ๆ — มันผันผวนที่สุดในโลก
แม้ความสัมพันธ์จะเริ่มจากความบังเอิญ
แต่เส้นทางหลังจากนั้นจะเต็มไปด้วย Deleveraging ทางอารมณ์
ความกลัวการล้มเหลว (Atelophobia)
เงารักเก่า
ความคาดหวังจากครอบครัว
หนี้
ความจน
และความศรัทธาที่สั่นคลอน
เพราะลินีเอง…ก็มี “รอยแตก” ในอดีตไม่แพ้เขา
รอยที่เธอปิดซ่อนด้วยรอยยิ้มเสมอ
และภควัตก็มี “บาดแผล” ที่ตลาดทุบจนแทบไม่เหลือตัวตน
เขากลัวความรักพอ ๆ กับกลัว Margin Call
พวกเขาจะต้องเรียนรู้คำว่า
รัก
ในเวอร์ชันที่ไม่ใช่เทพนิยาย
แต่เป็นเวอร์ชันของคนธรรมดาที่โดนโลกกระทืบมาทั้งคู่
Prologue ปิดฉากด้วยจุดเริ่มต้นที่ไม่มีใครรู้ว่า… จะเป็นรักหรือจะเป็นล่ม
คืนนั้นภควัตกลับไปเปิดโน้ตบุ๊กเก่า
แต่มองกราฟไม่ออกสักเส้น
เพราะใจยังติดอยู่ที่รอยยิ้มของลินี
เขาปิด MetaTrader แล้วถอนหายใจ
“กูจะไม่ All-in กับอะไรอีกแล้ว…
แต่ถ้าเป็นเธอคนนั้น…
ขอถือยาวก่อนละกัน”
ไม่รู้ว่าเป็นโชคชะตา
หรือความพังของชีวิต
แต่คืนนี้เขาหลับลึก
ครั้งแรกในรอบหลายปี
ลมหายใจสุดท้ายก่อนหลับ
เขาพึมพำเบา ๆ
“ขอให้พรุ่งนี้…
ตลาดใจของเธอไม่แกว่งแรงเกินไปละกันนะ”
และที่ต่างจังหวัดไกลออกไป
มีใครคนหนึ่ง—แม่ของภควัต—กำลังสวดให้ลูกชายพบคนดีสักคน
โดยไม่รู้เลยว่าคำอธิษฐานนั้น…
กำลังเริ่มทำงานแล้ว